เรื่องนี้เป็นเรื่องราวจริงทั้งสิ้น ไม่ได้เอามาตัดคัดลองแต่อย่างใด------------------------------------------------------------------------------
เรื่องมีอยู่ว่า ....
รถชนกันดังสนั่น และเหลือรอดแค่ 2 คน ซึ่งผมต้องอยู่โดดเดี๋ยวตามลำพัง
เพราะ ผมได้สูญเสียพ่อแม่ที่เป็นที่รักไปด้วยเหตุการ รถชน ตั้งแต่เด็ก
ผมต้องทนกับอากาศร้อน หนาว เดินตากฝน เดินไปโดยที่ไม่มีจุดมุ่งหมาย
และก็คิดไปว่า 'เราไม่เหลืออะไรอีกแล้ว แล้วจะมีชีวิตเหลืออยู่เพื่ออะไร''
และก็เดินต่อไป จนกระทั้งวันหนึ่ง ได้มีผู้อุปการะรับเลี้ยงผมเป็นพ่อบุญธรรม
ผมได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา ให้ลุงของผมที่รับเลี้ยงมาฟัง ทั้งน้ำตาที่ไหล
ลงมาแต่ละหยดๆ จนลุงรับไม่ได้ให้หยุดและมาปลอบผมว่า .............
"ปลาบใดที่เรามีลมหายใจ อะไรๆก็ไม่มีวันสาย" ด้วยคำพูดประโยคนั้นเองที่ทำให้ผม
จำฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้ ผมต้องเล่าเรียนหนังสือแบบไม่หยุดหน่อย และบ่อยครั้ง
ที่จะผมคนบางคนที่จะมาบ้านผมอยู่บ่อยๆ และทำลายข้าวของและยึดของบ้านผมเกือบไปหมด ผมต้องทนกับความเจ็บปวดนี้จนขึ้น มหาลัย ซึ่งตอนนั้นที่ผมกลับจากโรงเรียน
สึ่งที่ผมเห็นก็คือ พ่อของผมนั้งนิ่งไม่มีกราตอบสนองแต่อย่างใด ผมวิ่งไปเรียกพ่อด้วยสีหน้าที่ตกใจ "พ่อๆ ตื่นสิ พ่อเป็นอะไร พ่อ" ผมนั้งเรียกพ่ออยู่นอนจนลั้งน้ำตาไว้ไม่อยู่ และคนข้างบ้านก็เข้ามากันประมาน 2-3 คนเข้ามาบอกผม "ไม่ต้องเสียใจไปนะ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา
และก่อนพ่อของเธอจะสิ้นลม พ่อของเธอได้ฝากสิ่งนี้มาให้" พอพูดจบ ผมก็รีบหยิบของนั้นออกมาดู เป็นกระดาษยับๆในนึง และแหวนสีเงิน ในกระดาษนั้นเขียนเอาไว้ว่า
"พ่อจะขอเล่นความจริงให้ลูกฟัง พ่แอยากบอกมานานแล้วแต่ก็ไม่ได้บอกซะที อุบัติเหตุครั้งนั้นน่ะตอนที่รถพ่อแม่ของลูกประสานงานกันจังๆรถที่ชนกับรถของพ่อแม่ลูกคือรถของพ่อเอง และแหวนวงนี้ก็ของแม่ลูก พ่อของลูกบอกก่อนจะสิ้นใจตอนอุบัติเหตุครั้งนั้นว่า 'ช่วงดูแลลูกของผมด้วย' และได้มอบแหวนวงนี้ที่แม่ใส่อยู่ให้ก่อนที่จะสิ้นใจไปทั้งคู่" พอผมอ่านจบนั้นเอง ผมก็รู้สึกบ้าขึ้นมาตั้งสติไม่ได้คว้าปาข้างของจนคนแถวๆนั้นต้องมาช่วยกันหยุดผม หลายชั่วโมงผ่านมาผมเริ่มอาการดีขึ้นด้วยเหตุการณ์ที่ฝังใจผมนั้นเอง
ทำให้ผมเริ่มมีอาการผิดปกติทางจิต ไม่ชอบพูด มักจะเก็บตัวอยู่เงียบๆ และจะคิดสั้นอยู่เสมอหลายครั้งที่ผมจะฆ่าตัวตาย ผมก็รอดมาได้ทุกครั้ง ผมต้องทำงานเสริมเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองตามลำพัง
จนเรียนจบ ผมเห็นเพื่อนที่มีพ่อแม่มาดีใจด้วย ทำให้ผมเริ่มมีน้ำตาออกมานิดๆและเดินออกจากที่นั้นทันที
และตอนที่ผมกำลังพักผ่อนอยู่นั้นผมก็ได้ฝันว่าผมเจอพ่อแม่และพ่อบุญธรรมของผม
ผมอยากไปอยู่กับพวกเค้าแต่พวกเค้ากลับไม่ดีใจที่ว่าจะกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากัน
แต่ได้บอกประโยคไว้ว่า "เธอจงมีชีวิตต่อไปเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราพวกเรามาได้เท่านี้ เธอคือความหวังเดียว
ที่จะสืบทอดทาญาติของพวกเราต่อไป เธอเคยคิดใช่ไหมว่าทำไมตอนที่เธอคิดจะฆ่าตัวตายแต่เธอก็รอดมาทุกครั้ง
นั้นก็เพราะพวกเราอยู่กับเธอตลอดเวลา คอยช่วยเหลืออยู่กับเธอไม่ห่างหาย "
ตอนนั้นเองผมก็ได้สะดุ้งตื่นขึ้นมาและคิดกับตัวเองว่า "เราต้องมีชีวิตต่อไปเพื่อพวกเค้า"
ตั้งแต่นั้นผมสัญญาว่าจะสู้ชีวิตต่อไป ทำงานอย่างไม่มีหยุดพัก หาแนวทางในการหาเงินเพื่อผมปลดหนี้พ่อแม่จนหมด จนบัดนี้ ผมมีงานการที่ดีขึ้นมีลูกมีเมียให้เลี้ยงดู ผมก็คิดตั้งแต่นั้นมา "ขอบคุณที่ช่วยเหลือพวกเรามาตลอด ขอให้ท่านจงไปเกิดในภพภูมิที่ดีเถิด"
จนบัดนั้น ผมก็คิดเตรียมใจเอาไว้เเล้วว่า "อีกไม่นานเราก็คงต้องเป็นเหมือนพ่อแม่ของเรา" ยังก็แล้วแต่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็เป็นเรื่องธรรมดา คนเราก็หนีไม่พ้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น